ก. เทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นเทคโนโลยีแบบสุนทรียสัมผัส
และตอบสนองตามความต้องการ ปัจจุบันการใช้เทคโนโลยีเป็นแบบบังคับ เช่น
การดูโทรทัศน์ การฟังวิทยุ เมื่อเราเปิดเครื่องรับโทรทัศน์เราไม่สามารถเลือกตามความต้องการได้ ถ้าสถานีส่งสัญญาณใดมาเราก็ต้องชมตามตารางเวลาที่สถานีกำหนด หากผิดเวลาก็ทำให้
พลาดรายการที่สนใจไป และหากไม่พอใจรายการก็ทำได้เพียงเลือกสถานีใหม่ แนวโน้ม
จากนี้ไปจะมีการเปลี่ยนแปลงในลักษณะที่เรียกว่า
ออนดีมานด์ (on demand) เราจะมี
ทีวีออนดีมานด์ เช่น เมื่อต้องการชมภาพยนต์
เรื่องใดก็เลือกชม และดูได้ตั้งแต่ต้นรายการ
การศึกษาแบบออนดีมานด์ (education on demand) คือสามารถเลือกเรียนตามต้องการได้
การตอบสนองตามความต้องการเป็นหนทางที่เป็นไปได้ เพราะเทคโนโลยีมีการพัฒนา
ที่ก้าวหน้าจนสามารถนำระบบสื่อสารมาตอบสนองความต้องการ
ของมนุษย์ได้
|
|
ข. เทคโนโลยีสารสนเทศทำให้เกิดสภาพการทำงานแบบ
ทุกสถานที่และทุกเวลา เมื่อการสื่อสารแบบสองทางก้าวหน้าและแพร่หลายขึ้น
การโต้ตอบผ่านเครือข่ายทำให้เสมือนมีปฏิสัมพันธ์ได้จริง เรามีระบบประชุมทางวีดิทัศน์
ระบบประชุมบนเครือข่าย มีระบบการศึกษาบนเครือข่าย มีระบบการค้าบนเครือข่าย
ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้ายิ่งขึ้น การบริการจะกระจายมากยิ่งขึ้นจนถึงที่บ้านและในอนาคต
สังคมการทำงานจะกระจายจนงานบางงานอาจนั่งทำที่บ้านหรือที่ใดก็ได้ และเวลาใดก็ได้ |
|
ค. เทคโนโลยีสารสนเทศทำให้ระบบเศรษฐกิจเปลี่ยนจาก
ระบบแห่งชาติไปเป็นเศรษฐกิจโลก
ความเกี่ยวโยงของเครือข่ายสารสนเทศทำให้เกิดสังคมโลกาภิวัฒน์ (globalization)
เทคโนโลยีสารสนเทศมีส่วนเอื้ออำนวยให้การดำเนินการมีขอบเขตกว้างขวางมากยิ่งขึ้น
ระบบเศษฐกิจของโลกจึงผูกพันกับทุประเทศ และเชื่อโยงกันแนบแน่นขึ้น |
|
ง. เทคโนโลยีสารสนเทศทำให้องค์กรมีลักษณะผูกพัน
หน่วยงานภายในเป็นแบบเครือข่ายมากขึ้น
แต่เดิมการจัดองค์กรมีการวางเป็นลำดับขั้น มีสายการบังคับบัญชาจากบนลงล่าง แต่เมื่อ
การสื่อสารแบบสองทางและการกระจายข่าวสารดีขึ้น มีการใช้เครือข่ายคอมพิวเตอร์ในองค์กรผูกพันกันเป็นกลุ่มงาน มีการเพิ่มคุณค่าขององค์กรด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ การจัดโครงสร้างขององค์กรจึงปรับเปลี่ยนจากเดิม และมีแนวโน้มที่จะสร้างองค์กรเป็นเครือข่ายที่มีลักษณะ
การบังคับบัญชาแบบแนวราบมากขึ้น สถานภาพขององค์กรจึงต้องแปรเปลี่ยนไปตามกระแส
ของเทคโนโลยี เพราะการดำเนินธุรกิจต้องใช้ระบบสื่อสารที่มีความรวดเร็วเท่ากับแสง
ก่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนข้อมูลได้ง่ายและรวดเร็ว |
|
จ. เทคโนโลยีสารสนเทศก่อให้เกิดการวางแผนการดำเนินการระยะยาวขึ้น อีกทั้งยังทำให้วิถีการตัดสินใจ หรือเลือกทางเลือกได้ละเอียดขึ้น
แต่เดิมการตัดสินปัญหาอาจมีหนทางให้เลือกได้น้อย เช่น มีคำตอบเพียง ใช่ หรือ ไม่ใช่ แต่ด้วยข้อมูลข่าวสารที่สบับสนุนการตัดสินใจ ทำให้วิถีความคิดในการตัดสินปัญหาเปลี่ยนไป ผู้ตัดสินใจมีทางเลือกได้มากขึ้น มีความละเอียดอ่อนในการตัดสินปัญหาได้ดีขึ้น |
|
ฉ. เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นเทคโนโลยีเดียวที่มีบทบาท
ในทุกวงการ
ดังนั้นจึงมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางสังคม เศรษฐกิจ และการเมืองได้อย่างมาก ลองนึกดูว่าขณะนี้เราสามารถชมข่าว ชมรายการโทรทัศน์ที่ส่งกระจายผ่านดาวเทียมของประเทศต่าง ๆ
ได้ทั่วโลกเราสามารถรับรู้ข่าวสารได้ทันท่วงทีเราใช้เครือข่ายอินเทอร์เน็ตในการสื่อสารระหว่างกัน และติดต่อกับคนได้ทั่วโลก จึงเป็นที่แน่ชัดว่าแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรม เศรษฐกิจ สังคม และการเมืองจึงมีลักษณะเป็นสังคมโลกมากขึ้น |
|